จากบทความ Stochastic Oscillator สำหรับมือใหม่ ส่วนการตั้งค่า STO ตรง Slowing (วงกลมสีแดง) ที่บอกว่า 1 จะเป็นแบบเร็วและ 3 จะเป็นแบบช้า ตามภาพด้านล่าง
คุณอาจจะสงสัยว่าแบบเร็ว (Fast Stochastic) กับแบบช้า (Slow Stochastic) แตกต่างกันตรงไหน เรามาดูกันครับ
หน้าตา Fast Stochastic กับ Slow Stochastic
จากภาพด้านบน อินดิเคเตอร์แถวล่างสุดจะเป็น Fast Stochastic ส่วนแถวถัดมาจะเป็น Slow Stochastic
การคำนวณ
Fast Stochastic
Fast %K = ((ราคาปิด (วันนี้) – ราคาต่ำสุด (ช่วง n วัน) / (ราคาสูงสุด (ช่วง n วัน) – ราคาต่ำสุด (ช่วง n วัน)) x 100
Fast %D = Moving Average ของ Fast %K (นิยมใช้ Period = 3)
Slow Stochastic
Slow %K = เท่ากับเส้น Fast %D
Slow %D = Moving Average (นิยมใช้ Period = 3) ของ Slow %K
ค่า n ที่นิยมใช้คือ 5, 9 และ 14 วัน โดยแบบ 14 วันจะเคลื่อนไหวช้ากว่าแบบ 5 วัน
ต่างกันตรงไหน
จากภาพเดิม คุณจะเห็นว่า กราฟส่วน Fast Stochastic การเคลื่อนไหวจะหวือหวากว่า มีสัญญาณซื้อ-ขายมากกว่าแบบ Slow Stochastic แต่ก็มาพร้อมกับสัญญาณหลอกที่มากกว่า
ตรงกันข้ามกับ Slow Stochastic ที่การเคลื่อนไหวจะหวือหวาน้อยกว่า มีสัญญาณซื้อ-ขายน้อยกว่าแบบ Fast Stochastic ทำให้มีสัญญาณหลอกน้อยกว่า เทรดเดอร์จึงนิยมใช้แบบ Slow Stochastic
อย่างไรก็ตาม คุณควรทราบว่า ไม่มีอินดิเคเตอร์ตัวใดที่สามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาได้ถูกต้อง 100% คุณควรใช้อินดิเคเตอร์ Stochastic Oscillator ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น
และถึงแม้คุณจะเป็นเทรดเดอร์สายเทคนิค คุณจะต้องไม่ละเลยการติดตามข่าวสารของคู่สกุลเงินที่เทรด เพราะอาจทำให้การเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับข้อมูลที่อินดิเคเตอร์บอกคุณ ทำให้คุณขาดทุนจากการเทรด
คุณสามารถทดลองความแตกต่างระหว่าง Fast Stochastic และ Slow Stochastic ด้วยตัวคุณเองบนบัญชี Cent ที่คุณจะได้ทดลองใช้บนสนามจริงพร้อมด้วยเงื่อนไขการเทรดที่เป็นมิตรกับมือใหม่เช่นคุณ!
ที่มา : Exness